น้ำตาล แม้จะเป็นเครื่องปรุงสำหรับเพิ่มความหวานที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้ แต่หากเทียบกับ น้ำผึ้ง ซึ่งให้ความหวานได้เหมือนกันแล้ว น้ำผึ้งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะนั้นเป็นความหวานที่ได้มาจากธรรมชาติแท้ๆ เมื่อผึ้งดูดน้ำหวานจากดอกไม้แล้ว เมื่อกลับไปถึงรังแล้วน้ำหวานเหล่านั้นก็จะถูกส่งต่อให้กับผึ้งงาน ซึ่งในกระเพาะของมันจะมีเอนไซม์ที่สามารถเปลี่ยนน้ำหวานเหล่านั้นให้กลายเป็นน้ำตาลบริสุทธิ์ได้
honey health
น้ำผึ้งอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี 6 วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ทองแดง ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม และ โซเดียม จึงมักนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในการทำอาหาร เพราะมีสรรพคุณเป็นยาช่วยบรรเทาอาการเจ็บไข้เล็กๆ น้อยๆ ได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น การรับประทานน้ำผึ้งกับผลยอสุกในตอนเช้าจะช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ หรือ นำไปผสมกับน้ำมะนาวใช้เป็นยาแก้เจ็บคอขนานเอก บางตำรายังกล่าวว่านำผึ้งสามารถช่วยควยคุมระบบประสาททำให้ร่างกายสงบ ไม่กระวนกระวาย อีกทั้งยังมี ฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ในน้ำผึ้งยังมีเอนไซม์ฮอร์โมน โพลเลน (Pollen) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติเป็น ยาปฎิชีวนะตามธรรมชาติ มีฤทธิ์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ดังนั้นเวลาที่เราได้รับบาดเจ็บมีแผลเล็กน้อย เช่น แผลถลอก รอยขีดข่วนต่างๆก็สามารถ ใช้น้ำผึ้งทาเพื่อฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วยค่ะ
ข้อมูลจาก : นิตยสาร Elle Decor Cuisine