อาหารในยามน้ำท่วม
ในช่วงเวลาน้ำท่วมเมือง อาหารเป็นปัจจัยแรกที่ทุกคนต่างกลัวว่าจะขาดแคลน
ผู้คนจึงพากันกักตุนอาหารที่คิดว่าจำเป็นต่อการยังชีพ
นี่เป็นสาเหตุให้เกิดการขาดแคลนน้ำดื่มและอาหารสะดวกรับประทาน ซึ่งไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากในการประกอบเป็นอาหาร
คำแนะนำสำหรับอาหารที่ดีและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในยามน้ำท่วม
น้ำดื่มสะอาด
ร่างกายควรได้รับน้ำในแต่ละวันเฉลี่ยประมาณ 2 – 3 ลิตรหรือ 8 แก้วต่อวัน
ซีเรียลธัญพืชอบแห้งหรือข้าวอบแห้ง
เช่น ซีเรียลที่นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าควรใส่รวมกับนมหรือนมถั่วเหลืองหรือหากใส่ผลไม้เพิ่มก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้น ซีเรียลควรที่จะเป็นชนิดโฮลเกรน น้ำตาลและไขมันต่ำ
ข้าวอบแห้งที่สามารถหาได้ง่ายๆ ในบ้านเรา ได้แก่ข้าวตังหน้าธัญพืช ลูกเดือยอบกรอบ ข้าวพอง ข้าวแต๋น
เมล็ดธัญพืชพร้อมรับประทาน เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วแดงกระป๋อง หรือจะเป็นธัญพืชอัดแท่งก็ได้
อาหารในกลุ่มนี้จะให้พลังงานสูงและทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน
ถั่วเปลือกแข็ง
เช่น อัลมอนด์ แมกคาเดเมีย พิสตาชิโอ วอลนัท พีแคน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง
อาหารในกลุ่มนี้ให้คุณค่าทางอาหารสูงเนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัว โปรตีน ใยอาหาร และสารพฤกษาเคมีที่ช่วยขับสารอนุมูลอิสระที่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ลดระดับไขมันในเลือดและควบคุมระดับในตาลในเลือดให้คงที่ซึ่งดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
เส้นหมี่แห้ง
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาหารประเภทข้าวแป้งที่สะดวกในนำมาปรุงประกอบอาหาร ในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าและมีเพียงเตาถ่านหรือเตาแก๊ส เส้นหมี่จะช่วยเราประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่มีอยู่จำกัด แค่นำเส้นหมี่มาแช่น้ำก็สามารถนำมาผัด หรือต้มก็ได้ตามชอบ
ข้าวเหนียว
เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างข้าวสวยกับข้าวเหนียว ข้าวเหนียวจะสามารถทำให้อิ่มได้นานกว่าและมีอายุการเก็บรักษาได้นาน
ข้าวสวยปกติจะเก็บได้ 4 – 5 ชั่วโมงก็จะเริ่มบูด ในขณะที่ข้าวเหนียวเก็บได้ประมาณ 1 วันและเหมาะกับการนำเป็นอาหารกล่องไปแจกให้กับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยแยกข้าวเหนียวกับตัวกับข้าวคนละถุงกันก็จะทำให้อาหารเก็บได้นานขึ้นอีก
เนื้อสัตว์แห้งหรือกระป๋อง
เช่น ปลากรอบ หมูฝอย เนื้อฝอยโปรตีนเกษตรพร้อมรับประทานแผ่นแห้ง รวมถึงสาหร่ายอบแห้ง เหล่านี้เป็นแหล่งของโปรตีนที่ดี
ขนมปังกรอบแห้ง
จะเก็บได้นานกว่าขนมปังสดเนื่องจากอายุการเก็บของขนมปังโดยทั่วไปอยู่ประมาณ 3 – 7 วัน ก็จะเกิดเชื้อราขึ้นแม้ว่าจะตัดบริเวณที่เป็นเชื้อราทิ้งไปแล้วก็ไม่ควรที่จะรับประทานเพราะเชื้อราส่วนใหญ่จะแพร่กระจายไปทั่วแม้ว่าจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
น้ำผลไม้ 100% หรือน้ำสมุนไพรกระป๋อง
เช่น น้ำส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำแอปเปิ้ล น้ำองุ่น ดื่มแทนน้ำหรือแทนผลไม้สด
นม นมถั่วเหลือง หรือผลิตภัณฑ์ธัญพืชพร้อมดื่มบรรจุกล่อง
ในภาวะที่น้ำท่วมและอาหารขาดแคลนการเลือกเครื่องดื่มเช่น นมกล่องอาจเลือกประเภทที่มีไขมันปกติหรือนมที่ให้พลังงานสูงเพราะจะทำให้อิ่มได้นาน 3 – 4 ชั่วโมงและให้ของเหลวแก่ร่างกายแทนที่น้ำได้บางส่วน
น้ำผึ้ง น้ำหวานหรือลูกอม
เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ควรเก็บกักตุนไว้บ้างเพราะพื้นฐานของร่างกายจะต้องการน้ำตาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมอง หากไม่มีอาหารอย่างอื่นรับประทานได้แล้วและไม่มีแรงหรือรู้สึกจะเป็นลม ให้รับประทานน้ำผึ้ง น้ำหวาน หรือลูกอมก็จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคเบาหวานควรมีลูกอมหรือน้ำหวานแบ่งใส่ขวดเล็กๆเอาไว้ใช้เมื่ออยู่ในภาวะขาดน้ำตาล
ช็อกโกแลตแบบดำ หรือ Dark Chocolate
ก็เป็นสิ่งที่ควรมีติดบ้านไว้บ้าง เนื่องจากในโกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ สารคาเฟอีนเล็กน้อยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และมีสารที่ช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินทำให้มีอารมณ์ดีและลดความเครียดลงได้
ผักที่เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น
เช่น กระเทียม หัวหอม แครอท ฟักเขียว ฟักทองกะหล่ำปลีมันฝรั่งหรือจะเป็นผักอบแห้ง เช่น มะเขือเทศแห้ง หรือผักที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งแบบ Freeze – Dry ผักจะมีลักษณะแห้งและกรอบ เช่น ถั่วฝักยาว แครอท บล็อกโคลี่ กระเจี๊ยบ
ผลไม้ที่เก็บได้นาน
เช่น กล้วย (เลือกแบบที่ยังเขียวอยู่จะสามารถเก็บได้ 1 อาทิตย์) ส้ม แอปเปิ้ล หรือจะเป็นผลไม้แห้ง เช่น ลูกพรุน ลูกเกด ฝรั่งอบแห้ง มะม่วงกวน มะม่วงอบแห้งมะขามแห้งเป็นต้น
น้ำพริกแห้ง
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนำมาคลุกกับข้าวเพื่อเพิ่มรสชาติและได้ประโยชน์จากพริกที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และมีวิตามินซี
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากคุณ kittipanan
ขอบคุณภาพประกอบจาก Google