4 หัวข้อเล็กๆ เกี่ยวกับโปรโมชั่น และ การลดราคาสินค้าต่าง ๆ
1. ลดแล้วก็ยังลดอีก / ลดกระหน่ำวันสุดท้าย
โดยทั่วไปเมื่อมีสินค้ารุ่นใหม่ใกล้จะออกสู่ตลาด สินค้ารุ่นเก่าที่จะเลิกผลิตแล้วมักจะถูกโละ และลดราคาลงตามลำดับ
เช่น สินค้าลดราคาครั้งแรกต้นเดือน และขายไม่ออก มักจะถูกหั่นราคาลงอีกครึ่งนึงในต้นเดือนถัดไป
ดังนั้นถ้าเราเห็นอะไรลดราคา ก็อย่าพึ่งรีบร้อนซื้อลองมาดูอีกครั้งในช่วงเวลาเดียวกันของเดือนถัดไป ไม่แน่สินค้าชนิดนั้นอาจจะถูกลงกว่าเดิมอีก 50 % หรืออาจสังเกตได้จากพวกออกงานแสดงสินค้าต่าง ๆ เช่นงาน วันแรกนำสินค้ามาลดราคา อาจลดแค่ 10% แต่เมื่อใกล้ถึงวันสุดท้าย ราคาก็ลดลงเรื่อย ๆ ดีไม่ดี วันสุดท้ายอาจลดลงถึง 50% หรือบางร้านทั้งลดทั้งแถมก็มี เพราะไม่อยากแบกกลับ ซึ่งมีต้นทุนเรื่องการขนส่งอีก
2. รู้ทัน BOGOs
อะไรคือ BOGO ?
Buy One, Get One Free ก็โปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งไงจ๊ะ
ส่วน BOGOs (Buy One, Get One1/2 off Sale) ก็ซื้อหนึ่งชิ้น รับส่วนลดชิ้นที่สอง 50 % ไงละ
ซึ่งร้านขายเครื่องสำอางที่เราชอบใช้ มักใช้โปรฯนี้มาก แต่จิงๆ รู้มะว่ามันไม่คุ้มเลยนะสำหรับผู้ซื้อ เหตุผลก็เพราะสมมุติคุณต้องการซื้อครีมทาหน้า 2 ขวด คุณรอซื้อช่วง BOGOs เพื่อที่คุณจะได้ของ 2 ชิ้นในราคา 1 ชิ้นครึ่ง คุณจ่ายเงินซื้อครีมราคา 300 บาท ในราคา 450 บาท หาร 2 เหลือขวดละ 225 บาท เท่ากับคุณได้ส่วนลด 25% ซึ่งก็อาจดูดี สำหรับคนที่ไม่มีเวลาช็อปปิ้ง หรือซื้อกับเพื่อนคนละขวดแล้วหารกัน แต่มันจะไม่คุ้มเลยถ้าเราต้องการแค่ขวดเดียวเพราะเท่ากับเรากำลังถูกบังคับให้จ่ายเกินต้องการโดยไม่รู้ตัว ส่วนร้านก็ยิ้มแป้นเพราะสามารถขายได้ปริมาณมากขึ้น ล้างสต็อคสินค้าได้เร็วขึ้น แถมได้กำไรมากขึ้นอีก
3. ซื้อสินค้าซูเปอร์ก่อนห้างปิด
เวลาใกล้ห้างปิด คุณคงเคยช็อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ต ตอน 1 ทุ่ม หยิบอาหารซะเพียบ เถลไถลนานไปหน่อย
พอใกล้ห้างปิด หรือซักประมาณ 2 – 3 ทุ่ม เดินกลับมาที่เดิมปรากฏว่าของที่คุณซื้อกลับถูกหั่นราคาลงอีก 25-50% จากป้าย
4. สินค้าหน้าเยิน = ส่วนลด
น้อยคนที่จะรู้ว่าถึงแม้จะไม่ลดกระหน่ำ โดยทั่วไปทางร้านจะมีนโยบายอยากลดราคาสินค้าสภาพเยินหรือมีตำหนิใจจะขาด ดังนั้นถ้ามีสินค้าเหลือชิ้นเดียว หรือมีเฉพาะของที่โชว์ซึ่งก็อาจมีตำหนิ แต่ข้างในยังใช้ได้ดีอยู่ ลองกระซิบขอส่วนลดจากพนักงานขายหรือเจ้าของร้านดู นะจ๊ะ